PG และ VG คือ ส่วนผสมที่อยู่ภายในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เป็นของเหลวไม่มีกลิ่น ที่นำมารวมกับรสชาติและนิโคตินเพื่อสร้างน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า โดยในทางเทคนิคแล้ว ทั้ง PG และ VG จัดเป็นแอลกอฮอล์น้ำตาล ซึ่งมีหน้าที่ผลิตควันเมื่อถูกความร้อนซึ่งช่วยให้ผู้สูบสามารถหายใจเข้าไปได้ โดย PG และ VG ไม่ใช่น้ำมัน ทำให้ไม่ก่อให้เกิดปัญหาทางการแพทย์ใดๆ เช่น โรคปอดบวมจากไขมันในเลือดซึ่งเกิดจากการสูดดมน้ำมันจริงๆ
ของเหลวทั้งสองนี้มีความสอดคล้องกันและรสชาติที่แตกต่างกันเล็กน้อย เมื่อสูบหรือดมเข้าไปจะรับรู้ทางปากและลำคอ ซึ่งจะชัดเจนมากขึ้นเมื่อสูบไอ โดยน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าสมัยใหม่ส่วนใหญ่ใช้ PG และ VG ทั้งสองชนิดรวมกัน แม้ว่าจะใช้ในอัตราส่วนที่แตกต่างกันแล้วแต่ความต้องการของผู้บริโภค
โพรพิลีนไกลคอล (PG) ย่อมาจาก propylene glycol ใช้เป็นตัวทำละลาย วัตถุดิบและสารเคมีประเภทต่าง ๆ ทางยา, เครื่องสำอางค์ และอาหาร เป็นสารละลายใสแบบน้ำ ไม่มีสีและไม่มีกลิ่น มีความหนืดเล็กน้อย มีค่าความเป็นกรดด่างหรือ pH ระดับกลาง สามารถละลายในน้ำและแอลกอฮอล์ได้ มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อได้ โดยวัตถุประสงค์ในการใช้ ได้แก่ ใช้เป็นตัวทำละลายหรือเจือจาง ใช้เป็นตัวทำละลายหัวกลิ่นอื่นๆ ที่มีความเข้มข้นให้กลายเป็นกลิ่นประเภทต่าง ๆ (ทางเคมี), ใช้เป็นตัวสกัดสารสำคัญที่มีอยู่ในวัตถุดิบตามธรรมชาติ และใช้เป็นสารกันเสีย
กลีเซอรีนจากพืช (VG) ย่อมาจาก Vegetable Glycerin เป็นสารเคมีจากธรรมชาติที่ได้มาจากน้ำมันพืช จึงปลอดภัยสำหรับผู้ทานมังสวิรัติ โดยมีวัตถุประสงค์ในการใช้เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล มักใช้ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อให้เกิดความรู้สึก ‘หนา’ ในควัน โดย VG มีรสหวานเล็กน้อยและและมีระดับความเข้มข้นกว่า PG มาก กลีเซอรีนในผักให้ผลการสูบที่นุ่มนวลกว่าโพรพิลีนไกลคอลมากโดยเฉพาะที่คอ ทำให้เหมาะสำหรับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าแบบ Sub-ohm ซึ่งทำให้ VG เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ผลิตอีกด้วย
ข้อควรระวังในการใช้ PG และ VG
PG : สำหรับผู้ใช้บางราย PG อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อลำคอ หากตัวผู้ใช้พบว่าตัวเองมีอาการผื่นขึ้นหรือมีปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์อื่นๆ หลังจากใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มี PG เป็นหลัก ซึ่งผลข้างเคียงที่พบบ่อยของการใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีโพรพิลีนไกลคอลคืออาการขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง เจ็บคอ และกระหายน้ำมากขึ้น แนะนำให้ดื่มน้ำมากกว่าปกติในช่วงสองถึงสามสัปดาห์แรกของการใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่มี PG หากร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ อาการเหล่านั้นก็จะหายไปเอง เนื่องจากร่างกายคุ้นเคยกับโพรพิลีนไกลคอลแล้ว
VG : ความหนาที่เพิ่มขึ้นของ VG หมายความว่าสามารถลดอายุการใช้งานของอะตอมบุหรี่ไฟฟ้าได้เร็วกว่าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้ PG เนื่องจากมีโอกาสสูงที่จะทำให้คอยล์อุดตันได้เร็วกว่า และจะทำงานได้ไม่ดีในแทงค์บางรุ่น โดยเฉพาะอะตอมบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นเก่า รุ่นที่ใช้คอยล์ขนาดเล็กมีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ เช่น clearomizers กลุ่มผลิตภัณฑ์ Nautilus และ eGo เป็นต้น
อีกทั้งยังพบว่าผลข้างเคียงของการสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่น้ำยามี VG เป็นส่วนผสมสูง มีอาการคล้ายคลึงกับการใช้น้ำยา PG คืออาการขาดน้ำ ปากแห้ง เจ็บคอ และความกระหายที่เพิ่มขึ้น
อัตราและสัดส่วนในการใช้ PG และ VG
ในการเลือกใช้อัตราส่วนของ PG และ VG ที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์สูบที่ผู้ใช้ต้องการจึงไม่มีอัตราส่วนที่ตายตัว ซึ่งการเลือกอัตราส่วน PG/VG ควรระมัดระวังในการเลือกระดับที่เหมาะสมสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ ตลอดจนผู้ใช้ PG และ VG มีการเลือกใช้ความเข้มข้นในหลากหลายระดับเพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป ดังเช่น
• Throat Hit - หากผู้ใช้ชอบการสูบที่ให้ความรู้สึกแบบกระแทกคออย่างรุนแรง น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มี PG สูง จะให้ความรู้สึกเหล่านั้นด้านหลังลำคอได้เป็นอย่างดี ตลอดจนเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรสชาติในการสูบที่ดี กลิ่นชัด น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่เป็น PG จะมีรสชาติที่ดีกว่า VG เล็กน้อย
• Smoothness – น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มี VG สูงมักจะให้ความรู้สึกนุ่มนวลที่ลำคอมากขึ้น ให้ความรู้สึกเต็มที่บริเวณปากมากยิ่งขึ้นในระหว่างการสูบ แต่อาจจะมีรสชาติที่เด่นชัดน้อยกว่า PG เล็กน้อย แต่จะมีประสิทธิภาพในการผลิตควัน หรือไอระเหยได้มากกว่าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มี PG แต่ต้องระวังไม่ให้มากเกินไปเพราะอาจทำให้อุปกรณ์ที่ใช้เสียหายได้
• Stealth Vaping - หากผู้ใช้ไม่ต้องการให้เกิดควัน หรือไอระเหยในระหว่างการสูบในที่สาธารณะ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มี PG สูงจะมีไอระเหยน้อยกว่า เหมาะสำหรับการสูบในพื้นที่สาธารณะ เพราะการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในสถานที่สาธารณะบางแห่ง เช่น สถานที่รอรถ หรือบนรถสาธารณะ เป็นสิ่งผิดกฎหมายและถือเป็นมารยาทที่ไม่ดี ดังนั้นผู้สูบจึงต้องตระหนักถึงสาธารณชนและประพฤติตนด้วยความรับผิดชอบหากต้องสูบบุหรี่ในที่สาธารณะเหล่านั้น
เมื่อได้ทำความรู้จักกับส่วนประกอบของบุหรี่ไฟฟ้ากันไปแล้ว หากต้องการบุหรี่ไฟฟ้าสักอันไว้ครอบครอง S